ดาวน์โหลดรายละเอียด http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/E/018/1.PDF
ข่าวเปิดสอบครู สอบครูผู้ช่วย สอบบรรจุครู ครู อาจารย์ เป็น ครู รับครู สอบครู 2555 พนักงานราชการ ครูธุรการ สพป.ทั่วประเทศ สพม.ทั่วประเทศ
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น" แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น" แสดงบทความทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555
เล็งปรับเงินเดือนครูอายุงานเกิน 10 ปี
เมื่อ วันที่ 12 มกราคม นางศิริพร กิจเกื้อกูลเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการปรับเงินเดือนระดับปริญญาตรี15,000 บาท ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาลว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ซึ่งดูแลด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำลัง เร่งจัดทำหลักเกณฑ์ที่จะปรับเงินเดือนให้ข้าราชการครูในสถานศึกษาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ให้ได้รับเงินเดือนตามนโยบายปรับเงินเดือนผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 15,000 บาทซึ่งหลักเกณฑ์ที่จะออกมานั้น มีความเป็นธรรมกับสองกลุ่ม ได้แก่
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
งาน,
เงินเดือนใหม่,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ปรับเงินเดือน,
เพิ่มเงินเดือน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555
ครูคืนถิ่นพุ่งกว่า 2 หมื่นคน สพฐ.ตั้ง 7 คณะกลั่นกรอง-มีโอกาสกลับบ้านเกิน50%
เมื่อ วันที่ 11 ม.ค.55 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการครูคืนถิ่น ว่า หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เปิดให้ข้าราชการครูสายการสอน (ครูประจำการ) สมัครเข้าร่วมโครงการครูคืนถิ่นระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ครูประจำการได้ย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมนั้น ตัวเลขล่าสุดของครูประจำการที่ขอย้ายประมาณ 2 หมื่นคน ส่วนใหญ่จะขอย้ายเพื่อจะอยู่กับครอบครัว ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เตรียมการพิจารณาการขอย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้าย คือ
1.ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง หรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษา หรือหน่วยงานการศึกษาที่มิใช่ภูมิลำเนา
2.ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ หรือวิชาเอก
1.ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง หรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษา หรือหน่วยงานการศึกษาที่มิใช่ภูมิลำเนา
2.ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ หรือวิชาเอก
วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555
เห็นชอบเพิ่มสพม. จังหวัดละ 1 เขต
เห็นชอบเพิ่มสพม. จังหวัดละ 1 เขต กทม-โคราช-อุบล-เชียงใหม่-เมืองคอน 2 เขต เสนอ สกศ.ภายใน ม.ค.นี้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บริหารองค์กรหลัก องค์การมหาชน และองค์กรในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประชุม โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บริหารองค์กรหลัก องค์การมหาชน และองค์กรในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการประชุม โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555
"องค์กร"ไม่ขยายเวลายื่นขอใบประกอบวิชาชีพครู
"คุรุ สภา" ยันไม่ขยายเวลาให้เด็กจบ ป.บัณฑิต นอกที่ตั้งที่ไม่ได้รับการรับรองหลักสูตร ยื่นขอรับใบอนุญาตหลังหมดเขตสิ้นปี 54 แต่ยังพร้อมเปิดช่องให้เทียบโอน
วันนี้ ( 4 ม.ค.) นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวกรณีรศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) ทำหนังสือถึงคุรุสภาขอขยายเวลาการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ให้นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร(ป.บัณฑิต) ของ มอส. ออกไปอีก
วันนี้ ( 4 ม.ค.) นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวกรณีรศ.ดร.สุมนต์ สกลไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) ทำหนังสือถึงคุรุสภาขอขยายเวลาการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ให้นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร(ป.บัณฑิต) ของ มอส. ออกไปอีก
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
"ครู",
ครูคืนถิ่น,
งาน,
เงินเดือนใหม่,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สมัครสอบ,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
คุรุสภาแฉ มี 5 มหาลัย หลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน
คุรุสภา เปิดช่องให้ นศ.ไม่ได้รับใบอนุญาตฯ เข้ารับการจัดอบรมเทียบโอนความรู้ ระบุ ยังไม่เห็นหนังสือขอขยายเวลาการยื่นขอตั๋วครูของ มอส.ยันทุกมหา’ลัย ต้องปฏิบัติตามกติกา เผย มีอีก 5 มหา’ ลัย มีปัญหาเรื่องหลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน เตรียมนำเข้าหารือในบอร์ดคุรุสภา ส่วนเรื่องคดีความยังไม่คืบหวังเรื่องนี้จบก่อนหมดวาระตำแหน่งเลขาธิการคุรุ สภา เดือน ต.ค.
ตามที่ นายสุมนต์ สกลไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) จะทำหนังสือถึงคุรุสภาขอขยายเวลาการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูออกไปอีก 6 เดือน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการเลขาธิการคุรุสภา ได้มีประกาศกรรมการคุรุสภา
ตามที่ นายสุมนต์ สกลไชย อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) จะทำหนังสือถึงคุรุสภาขอขยายเวลาการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูออกไปอีก 6 เดือน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการเลขาธิการคุรุสภา ได้มีประกาศกรรมการคุรุสภา
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
"ครู" ในภาวะวิกฤติ,
คุรุสภาแฉ,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554
"คำขวัญวันครู" พ.ศ. 2555
ผลการประกวดคำขวัญวันครู พ.ศ. 2555
ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ กล่าวว่า จากการจัดการประกวดคำขวัญวันครู พ.ศ. 2555 เพื่อเชิญชวนให้ประชาชน ครู นิสิต นักศึกษา นักเรียน ส่งคำขวัญเข้าประกวดเพื่อร่วมกันเชิดชูเกียรติคุณครูและระลึกถึงพระคุณครู ขณะนี้ได้คำขวัญที่ชนะการประกวดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรางวัลชนะเลิศและกำหนดให้เป็นคำขวัญวันครู พ.ศ. 2555 ได้แก่
บูชาครูแห่งแผ่นดิน
ของ นางสาวขนิษฐา อุตรโส จังหวัดนครปฐม
ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ กล่าวว่า จากการจัดการประกวดคำขวัญวันครู พ.ศ. 2555 เพื่อเชิญชวนให้ประชาชน ครู นิสิต นักศึกษา นักเรียน ส่งคำขวัญเข้าประกวดเพื่อร่วมกันเชิดชูเกียรติคุณครูและระลึกถึงพระคุณครู ขณะนี้ได้คำขวัญที่ชนะการประกวดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรางวัลชนะเลิศและกำหนดให้เป็นคำขวัญวันครู พ.ศ. 2555 ได้แก่
บูชาครูแห่งแผ่นดิน
จอมปราชญ์ศาสตร์ศิลป์
สยามินทร์"ภูมิพล"
ของ นางสาวขนิษฐา อุตรโส จังหวัดนครปฐม
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
คำขวัญวันครู,
คำขวัญวันครู ๒๕๕๕,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
ขรก.-ลูกจ้างเฮ รับเงินเดือน 15,000 บาทเป็นของขวัญปีใหม่ 1 มค. 55
เมื่อ วันที่ 29 ธ.ค. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า นโยบายรัฐบาลเรื่องการปรับรายได้ให้แก่บุคลากรภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีเมื่อเข้าทำงานในระบบราชการควรมีรายได้ขั้นต่ำ อย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือนนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอร่างระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการ ครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ล่าสุดได้มีการยืนยันร่างระเบียบดังกล่าว ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
งาน,
เงินเดือน 15000,
เงินเดือนใหม่,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เตรียมยื่นหนังสือถึง "ยิ่งลักษณ์" เอาไม่เอาครูพันธุ์ใหม่
สภา คณบดีฯ เตรียมยื่นหนังสือถึง “ยิ่งลักษณ์” ทวงถามเอาไม่เอา “ครูพันธุ์ใหม่” พร้อมล่ารายชื่อนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่าแสนคนยื่นไปพร้อมกันด้วย
รศ.ดร.สมบัติ นพรัก ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าหนังสือตอบกลับจากคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ที่ เป็นสมาชิก ส.ค.ศ.ท.ทั้ง 75 แห่ง เพื่อจะร่วมกันทวงถามความชัดเจนการเดินหน้าโครงการครูพันธุ์ใหม่ปี 2554 ต่อ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้มีคณบดีส่วนหนึ่งที่ตอบกลับมาแล้ว แต่ด้วยกำหนดเวลาตอบกลับที่สั้น ดังนั้น ตนจึงขยายเวลาการตอบกลับไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม นอกจากนั้นในวันที่ 27 ธันวาคม นี้ ทาง ส.ค.ศ.ท.จะส่งหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามไปยังรัฐบาลจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวหรือไม่
รศ.ดร.สมบัติ นพรัก ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าหนังสือตอบกลับจากคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ที่ เป็นสมาชิก ส.ค.ศ.ท.ทั้ง 75 แห่ง เพื่อจะร่วมกันทวงถามความชัดเจนการเดินหน้าโครงการครูพันธุ์ใหม่ปี 2554 ต่อ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้มีคณบดีส่วนหนึ่งที่ตอบกลับมาแล้ว แต่ด้วยกำหนดเวลาตอบกลับที่สั้น ดังนั้น ตนจึงขยายเวลาการตอบกลับไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม นอกจากนั้นในวันที่ 27 ธันวาคม นี้ ทาง ส.ค.ศ.ท.จะส่งหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามไปยังรัฐบาลจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวหรือไม่
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
ครูพันธุ์ใหม่,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สมัครงานทั่วไป,
สมัครสอบ,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
หลักเกณฑ์ วิธีการ ขั้นตอน ห้วงเวลา โครงการย้าย "ครูคืนถิ่น"
คณะ กรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไฟเขียวเกณฑ์ย้าย “ครูคืนถิ่น” แต่สถานศึกษาที่รับย้ายควรมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ...
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามโครงการครูคืนถิ่น โดยผู้ขอย้ายต้องเป็นข้าราชการครูเฉพาะสายงานการสอน ที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ของตนเอง คู่สมรส หรือบิดามารดาของตนเองเท่านั้น และต้องดำรงตำแหน่งสายงานการสอนในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ดังกล่าว ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2554 โดยเกณฑ์การ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามโครงการครูคืนถิ่น โดยผู้ขอย้ายต้องเป็นข้าราชการครูเฉพาะสายงานการสอน ที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ของตนเอง คู่สมรส หรือบิดามารดาของตนเองเท่านั้น และต้องดำรงตำแหน่งสายงานการสอนในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ดังกล่าว ติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2554 โดยเกณฑ์การ
วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554
"ครู" ในภาวะวิกฤติ..!!
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
“สารพันปัญหา” ที่รุมเร้าประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติน้ำท่วม ความแตกแยกทาง การเมือง เศรษฐกิจตกต่ำ สังคมเสื่อมโทรม หรือแม้แต่ปัญหาก่อการร้าย ล้วนเป็นสิ่งที่ฉุดคร่าให้สังคมตกอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ ได้...วิกฤติปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ณ วันนี้ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่ง แต่จำเป็นต้องอาศัยทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
“สารพันปัญหา” ที่รุมเร้าประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติน้ำท่วม ความแตกแยกทาง การเมือง เศรษฐกิจตกต่ำ สังคมเสื่อมโทรม หรือแม้แต่ปัญหาก่อการร้าย ล้วนเป็นสิ่งที่ฉุดคร่าให้สังคมตกอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ ได้...วิกฤติปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ณ วันนี้ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่ง แต่จำเป็นต้องอาศัยทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ป้ายกำกับ:
ก พ รับ สมัคร สอบ,
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
"ครู" ในภาวะวิกฤติ,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สมัคร ภาค ก ก พ,
สมัครสอบ,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ศธ.เปิดโครงการ "ครูคืนถิ่น"
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการ "ครูคืนถิ่น" เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย โดยมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัดเข้าร่วมงานกว่า 550 คน
รมว.ศธ.กล่าวตอนหนึ่งว่า ครูเป็นหนึ่งในอาชีพที่เสียสละในการทำงานอย่างหนัก โดยทำหน้าที่ดูแลเด็กตัวน้อยๆ ที่อาศัยครูเป็นเรือจ้าง ส่งให้ลูกศิษย์ไปสู่ความสำเร็จทางการศึกษาด้วยความภาคภูมิใจ แต่สิ่งหนึ่งทีได้เห็นคือ ครูที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งในต่างถิ่น ต้องจากญาติพี่น้อง พ่อแม่ หรือแยกกันอยู่กันคนละที่คนละทาง บางคนจากบ้านไปทำงานนานกว่า 30 ปีโดยไม่ได้ย้ายกลับ บางคนต้องเดินทางไป
ป้ายกำกับ:
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สมัคร ภาค ก ก พ,
สมัครสอบ,
สมัครสอบตำรวจ,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ครม.ไฟเขียวตั้ง มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ด้านราชภัฏสุราษฎร์ฯ ประชาพิจารณ์ยุบรวม ม.อ.สุราษฎร์ ชูปณิธานมหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น
วันที่ 19 ธ.ค.54 นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ.(...) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ โดยมีหลักการให้ควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เพื่อจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ การควบรวมจะช่วยให้การจัดการศึกษาดีขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยจะปรับปรุงการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและ สังคม แต่จะไม่มีผลต่อการเพิ่มงบประมาณ หรืออัตรากำลังข้าราชการ และลูกจ้างประจำ
วันที่ 19 ธ.ค.54 นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ.(...) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ โดยมีหลักการให้ควบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เพื่อจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ การควบรวมจะช่วยให้การจัดการศึกษาดีขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยจะปรับปรุงการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและ สังคม แต่จะไม่มีผลต่อการเพิ่มงบประมาณ หรืออัตรากำลังข้าราชการ และลูกจ้างประจำ
ป้ายกำกับ:
ก พ รับ สมัคร สอบ,
ข้าราชการครู,
ครู,
ครูคืนถิ่น,
งาน,
จรรยาบรรณครู,
ที่ รับ สมัคร งาน,
ย้ายสับเปลี่ยน,
วิชาชีพครู,
สพม.,
สมัครงาน,
สมัคร ภาค ก ก พ,
สมัครสอบ,
สมัครสอบตำรวจ,
สอบ pat,
หลักเกณฑ์ "ครูคืนถิ่น"
วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ย้ายครูไกลบ้าน ทำครอบครัวแตก!
ตั้งอนุกรรมการฯ ปรับปรุงให้เหมาะสมที่สุด! เกณฑ์ย้ายครู-เลื่อนวิทยฐานะ เพื่อลดปัญหาด้อยประสิทธิภาพในการสอน
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน เพื่อทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน โดยแต่งตั้งให้ตนเอง เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.ศึกษาธิการ ให้ถือว่าเรื่องการย้ายครูคืนถิ่นเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที เพราะปัญหาการย้ายครูคาราคาซังมานาน และยังได้รับการร้องเรียนมากว่าการย้ายครูโดยทั่วไป ไม่ตอบสนองต่อทำงานที่เกิดประสิทธิภาพ เพราะครูถูกย้ายไปในถิ่นที่ห่างไกลจากครอบครัว ก่อให้เกิดปัญหาบ้านแตก ขาดความอบอุ่น จนกลายเป็นปัญหาสังคมในที่สุด ดังนั้น จึงต้องเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เอื้อกับความต้องการของครูที่ขอย้ายมากที่ สุด โดยยึดหลักเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เน้นการขอย้ายกลับบ้านของตนเอง หรือย้ายไปอยู่กับคู่สมรส ทั้งนี้ จะพิจารณาคำขอย้ายของครูที่บ้านประสบปัญหาภัยพิบัติจากธรรมชาติในครั้งนี้ เป็นลำดับต้นๆ ก่อนด้วย
รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ยังได้ลงนามในประกาศ ก.ค.ศ.เรื่องตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจจัดทำร่างหลักเกณฑ์การวิธีการประเมินวิทยฐานะของข้า ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และแต่งตั้งให้ตนองเป็นประธานอีกคณะหนึ่งด้วย โดยมีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์กฎหมาย กฎระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการ นโยบายที่เกี่ยวข้องและบริบทในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูฯ เพื่อกำหนดแนวทางในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูฯ มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และจัดทำร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินให้มีความเหมาะสม
เนื่องจากในปัจจุบันการขอเลื่อนวิทยฐานะ จะเน้นการทำผลงานวิจัย เป็นเอกสาร ตำรา คล้ายกับการขอตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งมักเกิดปัญหาเรื่องการจ้างทำผลงาน หรือคัดลอกผลงานผู้อื่น รวมถึงปัญหาการทิ้งชั้นเรียนโดยไม่สนใจเด็ก เพื่อมุ่งแต่จะขอเลื่อนวิทยฐานะ ดังนั้น อ.ก.ค.ศ.จะจัดทำร่างปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการขอเลื่อนวิทยฐานะ โดยคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อครอบคลุมครูทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีผลงาน รางวัล เป็นที่ยอมรับจนได้รับการยกย่องจากสังคมด้วย
"แม้จะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การย้ายของครู และปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะของครูขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้ยกเลิกหลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่ แต่ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ครูจะสามารถขอย้ายและขอเลื่อนวิทยฐานะได้ เพื่อลดปัญหาการด้อยประสิทธิภาพในการทำงานของครู ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯทั้ง 2 ชุดจะเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นคณะกรรมการฯจะนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาและประกาศใช้ต่อไป" รศ.ดร.สุขุม กล่าว
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน เพื่อทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน โดยแต่งตั้งให้ตนเอง เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.ศึกษาธิการ ให้ถือว่าเรื่องการย้ายครูคืนถิ่นเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที เพราะปัญหาการย้ายครูคาราคาซังมานาน และยังได้รับการร้องเรียนมากว่าการย้ายครูโดยทั่วไป ไม่ตอบสนองต่อทำงานที่เกิดประสิทธิภาพ เพราะครูถูกย้ายไปในถิ่นที่ห่างไกลจากครอบครัว ก่อให้เกิดปัญหาบ้านแตก ขาดความอบอุ่น จนกลายเป็นปัญหาสังคมในที่สุด ดังนั้น จึงต้องเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เอื้อกับความต้องการของครูที่ขอย้ายมากที่ สุด โดยยึดหลักเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เน้นการขอย้ายกลับบ้านของตนเอง หรือย้ายไปอยู่กับคู่สมรส ทั้งนี้ จะพิจารณาคำขอย้ายของครูที่บ้านประสบปัญหาภัยพิบัติจากธรรมชาติในครั้งนี้ เป็นลำดับต้นๆ ก่อนด้วย
รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ยังได้ลงนามในประกาศ ก.ค.ศ.เรื่องตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจจัดทำร่างหลักเกณฑ์การวิธีการประเมินวิทยฐานะของข้า ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และแต่งตั้งให้ตนองเป็นประธานอีกคณะหนึ่งด้วย โดยมีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์กฎหมาย กฎระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการ นโยบายที่เกี่ยวข้องและบริบทในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูฯ เพื่อกำหนดแนวทางในการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูฯ มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และจัดทำร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินให้มีความเหมาะสม
เนื่องจากในปัจจุบันการขอเลื่อนวิทยฐานะ จะเน้นการทำผลงานวิจัย เป็นเอกสาร ตำรา คล้ายกับการขอตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งมักเกิดปัญหาเรื่องการจ้างทำผลงาน หรือคัดลอกผลงานผู้อื่น รวมถึงปัญหาการทิ้งชั้นเรียนโดยไม่สนใจเด็ก เพื่อมุ่งแต่จะขอเลื่อนวิทยฐานะ ดังนั้น อ.ก.ค.ศ.จะจัดทำร่างปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการขอเลื่อนวิทยฐานะ โดยคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อครอบคลุมครูทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีผลงาน รางวัล เป็นที่ยอมรับจนได้รับการยกย่องจากสังคมด้วย
"แม้จะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การย้ายของครู และปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะของครูขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้ยกเลิกหลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่ แต่ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ครูจะสามารถขอย้ายและขอเลื่อนวิทยฐานะได้ เพื่อลดปัญหาการด้อยประสิทธิภาพในการทำงานของครู ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯทั้ง 2 ชุดจะเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นคณะกรรมการฯจะนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาและประกาศใช้ต่อไป" รศ.ดร.สุขุม กล่าว
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554
สอบใหม่12พื้นที่ฉาว
สพฐ.กำหนด สอบบรรจุบุคลากรใน 12 เขตพื้นที่ฯ ฉาวใหม่ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ให้มหาวิทยาลัยออกข้อสอบใหม่ เชื่อมั่นป้องกันข้อสอบรั่ว ทุจริตได้
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการชะลอสอบแข่งขันเพื่อบรรจุแต่งตั้งบุคลากรทางการ ศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ใน 12 สพท. หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการบรรจุดังกล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดวันสอบดังกล่าวใหม่แล้ว ซึ่งได้กำหนดให้สอบในวันที่ 27 พ.ย.นี้ หลังจากได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ในการสอบครั้งใหม่นี้ สพฐ.จะให้มหาวิทยาลัยดำเนินการทั้งหมด ทั้งการออกข้อสอบใหม่ จัดสอบ และประมวลผล และค่อยส่งผลคะแนนกับมาที่ สพฐ. อย่างไรก็ตาม ก็เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะป้องกันการทุจริตต่างๆ ได้ อาทิ การรั่วไหลของข้อสอบ การให้คะแนนสอบ เป็นต้น
เลขาธิการ สพฐ .กล่าวว่า ในวันพุธที่ 12 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมกับเขตพื้นที่ฯ ทั้ง 12 เขต เพื่อทำความเข้าใจในการจัดสอบบรรจุดังกล่าวใหม่ ทั้งภาค ก. และภาค ข. ทั้งนี้ ที่ต้องเรียกมาทำความเข้าใจนั้น เพราะเดิมทางเขตพื้นที่ฯ จะเป็นผู้ออกข้อสอบ และประมวลผลเอง แต่ในเมื่อมีการร้องเรียนเกิดขึ้น และต้องการให้มีความโปร่งใส รวมทั้งมีความน่าเชื่อถือ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ให้ สพฐ.เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบเอง แต่ทั้งนี้ในการสอบภาค ค. ก็ยังคงให้สิทธิ์ทางเขตพื้นที่ฯ ดำเนินการเองต่อไป
"การให้มหาวิทยาลัยมาทำหน้าที่นี้ ตนก็เชื่อว่าจะทำให้การสอบภาค ก. และ ภาค ข. มีความนิ่งมากขึ้น และหากเกิดอะไรไม่ดี ก็จะสามารถตรวจสอบได้ง่าย" นายชินภัทรกล่าว
วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554
แจกแท็บเล็ตให้ครู
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ รักษาการปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้แทนองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโกประจำประเทศไทย ได้เข้าหารือกับตนในเรื่องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่เด็ก โดยยูเนสโกมีผลการศึกษาการใช้แท็บเล็ตในเด็กแต่ละช่วงชั้น ซึ่งในหลายประเทศเริ่มใช้กันแล้ว ทั้งนี้ยูเนสโกจะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องขององค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากร และการเชื่อมโยงเครือข่าย ซึ่งตนเสนอว่าภาษาในเครื่องแท็บเล็ตควรจะต้องใช้ภาษาไทยทั้งหมด ส่วนช่วงชั้นที่จะใช้นั้นทางยูเนสโกเสนอว่าในหลายแห่ง อาทิ มาเลเซีย จีน มาเก๊า จะไม่เริ่มใช้ในเด็กชั้น ป. 1-6 แต่จะให้เด็กระดับมัธยมศึกษา และยังมีการแจกแท็บเล็ตให้ครูด้วย นอกจากนี้บางประเทศมีการให้คูปองเพื่อให้เด็กนำไปเลือกซื้อแท็บเล็ตเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งนี้ตนจะนำข้อสรุปที่ได้เสนอต่อนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ และจะนำไปหารือในที่ประชุมองค์กรหลักของ ศธ.ด้วย
วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ศธ.ร่างหลักเกณฑ์ใหม่ครูคืนถิ่น
นาย อภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เกี่ยวกับการย้ายตามนโยบายครูคืนถิ่น ว่า จากที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุลรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องการเปิดโอกาสให้ข้าราชการครูที่ต้องการกลับภูมิลำเนา สามารถโอนย้ายได้โดยไม่ติดขัดข้อกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งเดิมกำหนดไว้เพียงสั้นๆ จึงทำให้แต่ละ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการที่ทำหน้าที่พิจารณาการโยกย้าย ตีความต่างกัน ทำให้มีแนวปฏิบัติที่ต่างกันดังนั้นจึงต้องกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อใช้กับครูทุกพื้นที่ โดยขณะนี้ตนได้มอบหมายให้คณะทำงานจัดทำร่างหลักเกณฑ์ใหม่ โดยไม่ต้องแก้กฎหมายของ ก.ค.ศ.
นายอภิชาติกล่าวต่อว่า หลักเกณฑ์ ก.ค.ศ.ที่ผ่านมาเป็นปัญหา ทำให้ครูไม่สามารถย้ายกลับภูมิลำเนาได้ตามความต้องการ เช่น กรณีข้าราชการครูที่สามีเสียชีวิต และไม่สามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้ หากต้องการกลับไปอยู่กับ
ครอบครัว ก็สามารถให้โอนย้ายได้เป็นกรณีพิเศษทันที จากเดิมที่ต้องรอขอโอนย้ายในช่วงที่ราชการกำหนด คือให้ขอย้ายปีละ 2 ครั้งได้แก่ ช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม หรือกรณีของครูผู้ช่วยที่เดิมกำหนดว่าต้องปฏิบัติราชการในโรงเรียนที่ได้รับ การบรรจุเป็นเวลา2 ปี ถึงจะขอโอนย้ายได้ตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาบางจังหวัด เช่น ครูผู้ช่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความจำเป็น ก็สามารถขอโอนย้ายได้เป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น
"การยกร่างหลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว เพื่อออกเป็นมาตรการให้ครูได้กลับไปทำงานใกล้ภูมิลำเนาไม่ใช่กลับไปทำงานใน ภูมิลำเนาเท่านั้น เพราะถ้ากำหนดว่าให้กลับภูมิลำเนาได้และหากภูมิลำเนาที่ครูอาศัยไม่มี ตำแหน่งว่าง ก็ต้องลงในโรงเรียนที่ใกล้ภูมิลำเนามากที่สุดดังนั้นผมต้องอธิบายให้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เข้าใจ โดยอาจจะให้ปรับเป็นครูใกล้ภูมิลำเนาแทน โดยร่างดังกล่าวจะต้องเสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณา ก่อนประกาศใช้ต่อไป" นายอภิชาติกล่าว
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
ศธ.เร่งชงหลักเกณฑ์นโยบายครูคืนถิ่น
นาย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2554 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า จากการที่อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 (จ.สงขลา) ว่างลง เนื่องจากนายสงบ มณีพรหม อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในระหว่างการสรรหา เพราะเป็นข้าราช การครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้าม จึงทำให้ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น ไม่สามารถตั้งเป็นอนุกรรม การผู้ทรงคุณวุฒิฯ ได้ ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง พร้อมทั้งให้มีการดำเนินการสรรหาอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงาน บุคคล ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยม ศึกษา เขต 16 ใหม่
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับนโยบายครูคืนถิ่นด้วยว่า ต้องการให้ครูมีโอกาสกลับภูมิลำเนา หรือบ้านเกิด หรืออยู่ร่วมกับคู่สมรส แต่เนื่องจากมีกฎระเบียบต่างๆ ในการบริหารงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบจึงขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ และให้คณะอนุกรรมการเสนอหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในครั้งต่อไป
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับนโยบายครูคืนถิ่นด้วยว่า ต้องการให้ครูมีโอกาสกลับภูมิลำเนา หรือบ้านเกิด หรืออยู่ร่วมกับคู่สมรส แต่เนื่องจากมีกฎระเบียบต่างๆ ในการบริหารงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบจึงขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ และให้คณะอนุกรรมการเสนอหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในครั้งต่อไป
เริ่มแล้ว! การกู้เงินโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. 3 ล้านบาท
โครงการขยายวงเงิน เริ่มเดือนกันยายน 2554 ดำเนินโครงการร่วมกับธนาคารออมสิน โดยกำหนดคุณสมบัติให้สมาชิก ช.พ.ค. ที่มีอายุการเป็นสมาชิก 6 เดือนขึ้นไป มีสิทธิกู้เงินภายในวงเงินคนละ ไม่เกิน 1,200,000 บาท และสมาชิกที่มีอายุการเป็นสมาชิก 1 ป,ขึ้นไป มีสิทธิกู้เงิน ภายในวงเงินคนละ 1,200,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ MLR-0.85 ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยทุกเดือน และชำระเงินต้นที่เหลือคืนจาก เงิน ช.พ.ค. เมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม
เฮ! ก.พ.สั่งปรับเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ
ที่ประชุม ก.พ.-คลัง ไฟเขียวปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ตั้งแต่วุฒิ ปวช.-ป.เอก ภายใน 2 ปี เตรียมเสนอ ครม. 4 ตุลาคมนี้ หากผ่านเริ่มปรับตั้งแต่ 1 ม.ค.55
วานนี้ (29 กันยายน) มีแหล่งข่าวเปิดเผยถึงการประชุมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ารือเรื่องการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ เพื่อให้สอดรับกับมติ ครม.ที่อนุมัติให้ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการเข้าใหม่ที่จบปริญญาตรีขั้นต่ำ เป็น 15,000 บาท โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปจะให้ปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ตั้งแต่วุฒิ ปวช.ไปจนถึงปริญญาเอก ในช่วงเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ดังนี้
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวช.
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 6,400 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 14,000 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกจะได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,380 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 1,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 700 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 400 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวช.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 10,690 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 17,110 บาท
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวส.
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 7,670 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 16,710 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,290 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,590 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวส.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 12,010 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 19,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาตรี
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 9,140 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดที่ 19,910 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,540 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 3,320 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 9 ปี ปีแรกปรับขึ้น 500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาตรีที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 16,310 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 23,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาโท
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 12,600 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 23,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,700 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,400 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,100 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาโทที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 18,710 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 26,610 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาเอก
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 17,010 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 28,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,690 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 3-5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 6-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาเอกที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 24,810 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 33,210 บาท
ทั้ง นี้ ที่ประชุมเตรียมจะนำเสนอแนวทางการปรับฐานเงินเดือนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2555 คาดว่าจะใช้งบประมาณในปีแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 15,000 ล้านบาท
[18 สิงหาคม] อัตราเงินเดือนข้าราชการใหม่ ข้าราชการเก่งได้พิเศษ
หลัง จากที่ ครม. มีมติเห็นชอบขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยปรับตามค่าครองชีพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาคนเก่งคนดีไว้ในราชการนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา นายนนทิกร กาญจนจิตรา รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงาน ก.พ.ได้จัดทำบัญชีอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญไว้หมด แล้ว
ทั้งนี้การปรับขึ้นอัตราเงินเดือนแรกบรรจุข้างราชการใหม่จะขึ้นประมาณร้อยละ 10 ดังนี้
- อัตราบรรจุผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จะอยู่ที่ 8,700 บาท/เดือน จากเดิม 7,940 บาท
- ระดับปริญญาโทอยู่ที่ 11,000-12,000 บาท/เดือน จากเดิม 9,000 บาทเศษ/เดือน
- ระดับปริญญาเอกอยู่ที่ 16,000 บาท/เดือน จากเดิม 13,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ก.พ.ยังเสนอให้มีการพิจารณาเพิ่มเงินพิเศษให้กับข้าราชการที่เก่งภาษา ซึ่งอาจพิจารณาจากคะแนนสอบโทเฟล, บุคคลที่มีคะแนนสอบเข้ารับราชการเป็นอันดับต้น ๆ , บุคคลที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมากกว่า 1 ใบ, บุคคลที่มีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการรับราชการ ฯลฯ ทั้งนี้ ประกาศใช้อัตราเงินเดือนแรกบรรจุแบบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
วานนี้ (29 กันยายน) มีแหล่งข่าวเปิดเผยถึงการประชุมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ารือเรื่องการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ เพื่อให้สอดรับกับมติ ครม.ที่อนุมัติให้ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการเข้าใหม่ที่จบปริญญาตรีขั้นต่ำ เป็น 15,000 บาท โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปจะให้ปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ตั้งแต่วุฒิ ปวช.ไปจนถึงปริญญาเอก ในช่วงเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ดังนี้
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวช.
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 6,400 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 14,000 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกจะได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,380 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 1,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 700 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 400 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวช.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 10,690 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 17,110 บาท
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวส.
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 7,670 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 16,710 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,290 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,590 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวส.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 12,010 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 19,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาตรี
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 9,140 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดที่ 19,910 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,540 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 3,320 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 9 ปี ปีแรกปรับขึ้น 500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาตรีที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 16,310 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 23,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาโท
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 12,600 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 23,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,700 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,400 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,100 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาโทที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 18,710 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 26,610 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาเอก
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 17,010 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 28,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,690 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 3-5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 6-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
ดัง นั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาเอกที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 24,810 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 33,210 บาท
ทั้ง นี้ ที่ประชุมเตรียมจะนำเสนอแนวทางการปรับฐานเงินเดือนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2555 คาดว่าจะใช้งบประมาณในปีแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 15,000 ล้านบาท
[18 สิงหาคม] อัตราเงินเดือนข้าราชการใหม่ ข้าราชการเก่งได้พิเศษ
หลัง จากที่ ครม. มีมติเห็นชอบขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยปรับตามค่าครองชีพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาคนเก่งคนดีไว้ในราชการนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา นายนนทิกร กาญจนจิตรา รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงาน ก.พ.ได้จัดทำบัญชีอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญไว้หมด แล้ว
ทั้งนี้การปรับขึ้นอัตราเงินเดือนแรกบรรจุข้างราชการใหม่จะขึ้นประมาณร้อยละ 10 ดังนี้
- อัตราบรรจุผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จะอยู่ที่ 8,700 บาท/เดือน จากเดิม 7,940 บาท
- ระดับปริญญาโทอยู่ที่ 11,000-12,000 บาท/เดือน จากเดิม 9,000 บาทเศษ/เดือน
- ระดับปริญญาเอกอยู่ที่ 16,000 บาท/เดือน จากเดิม 13,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ก.พ.ยังเสนอให้มีการพิจารณาเพิ่มเงินพิเศษให้กับข้าราชการที่เก่งภาษา ซึ่งอาจพิจารณาจากคะแนนสอบโทเฟล, บุคคลที่มีคะแนนสอบเข้ารับราชการเป็นอันดับต้น ๆ , บุคคลที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมากกว่า 1 ใบ, บุคคลที่มีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการรับราชการ ฯลฯ ทั้งนี้ ประกาศใช้อัตราเงินเดือนแรกบรรจุแบบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)