วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู


ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.

เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นวันครู ในวันดังกล่าวเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจของครูทั่วประเทศ มีการจัดงานวันครูที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับทุกๆ ปี ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค หนังสือพิมพ์ต่างๆ นำเสนอข่าวการกราบคารวะครูของนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ซึ่งเป็นประธานพิธีในวันนั้น เป็นภาพที่ประทับใจคนทั้งประเทศก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกล่าวปราศรัยของนายกรัฐมนตรีกับครูตอนหนึ่งที่ว่า "คำ ว่าครูมีความหมายลึกซึ้ง ไม่ใช่เป็นเพียงผู้สอน ยังต้องมีหน้าที่ในการอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์มีคุณธรรม จริยธรรม สมกับเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ครูเป็นเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ถือเป็นผู้มีจิตอาสาอย่างแท้จริง แต่วันนี้น่าตกใจที่อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีหนี้สินมากที่สุด...รัฐบาลให้ ความสำคัญกับครูและการศึกษาของเยาวชนที่ต้องควบคู่กันไป และนอกจากครูจะได้รับการยกย่องแล้ว ต้องมีขวัญกำลังใจและสวัสดิการ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและไม่เคยลืม..."


จากคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับครูเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานก.ค.ศ.ดำเนินการโครงการเงินทุนหมุน เวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยจัดสรรเงินงบประมาณของทางราชการเพื่อให้ข้าราชการครูกู้ในอัตราดอกเบี้ย ที่ต่ำกว่าไปชำระหนี้ที่มีอยู่ ภายใต้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไข ปัญหาหนี้สินครู พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กอปรกับในปี พ.ศ.2554 เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือให้กองทุนหมุนเวียนทบทวนบทบาท หน้าที่กรอบภารกิจและวัตถุประสงค์ของทุนหมุนเวียน เพื่อหามาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้รับบริการที่ได้รับความเดือด ร้อนจากอุทกภัย คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู จึงหามาตรการในการให้ความช่วยเหลือข้าราชการครูที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวโดย ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพักชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้และให้กู้ยืม กรณีผู้ประสบอุทกภัย พ.ศ.2554 โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1.ข้าราชการครูผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตามโครงการนี้ ต้องเป็นผู้กู้ยืมเงินตามโครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้า ราชการครูที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ทำให้ทรัพย์สินหรือที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าราชการครู ผู้กู้ยืม หรือของบิดา มารดา และใช้อาศัยอยู่จริงได้รับความเสียหายเป็นที่ประจักษ์ มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่ผิดนัดชำระหนี้และไม่มีหนี้ค้างชำระตั้งแต่ 3 งวดขึ้นไป

2.การให้ความช่วยเหลือ จะพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญากู้ยืมเงินเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 ขยายเวลาการชำระหนี้เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยทั้งการพักชำระหนี้และขยายเวลาการชำระหนี้ ต้องไม่เกินกำหนดอายุราชการของผู้กู้ยืมยังรับราชการอยู่ สำหรับการกู้ยืมใหม่ ให้กู้ยืมคนละไม่เกิน 300,000 บาทอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ผ่อนชำระภายในกำหนด 8 ปี (96 งวด)

3.ให้ผู้มีความประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือตามโครงการนี้ ดำเนินการยื่นคำขอและดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม 2555 โดยสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว พร้อมแบบคำขอได้ทาง www.moe.go.th/webtcs

ในโอกาสนี้จึงแจ้งเตือนมายังเพื่อนครูที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ นี้ว่า เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันที่จะครบกำหนดแล้ว ขอให้รีบดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลาดังกล่าวนะคะ


ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น