วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

ศธ.อัดงบ7หมื่นล้านขึ้นเงินเดือนครู

     ปลัดกระทรวงศึกษาฯ ชี้ต้องใช้งบ 400 ล้าน สนองนโยบายปรับเงินเดือนครูให้ถึงหมื่นห้า แต่หากรวมที่ปรับได้ตามมติ ครม.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ต้องผลาญงบถึง 7 หมื่นล้าน ส่วนปัญหาเสียสิทธิ์เป็นข้าราชการ ศธ. เพราะติดเกณฑ์ทหารมีให้คงสิทธิ์ไว้ พร้อมมีมติให้ กคศ.แจ้งการรับรองคุณวุฒิทุกมหาวิทยาลัย แม้จะปรับรื้อหลักสูตรใหม่ เพื่อแก้ปัญหาบัณทิตสอบบรรจุครูไม่ได้ แนะมหา'ลัยรีบแจ้งก่อน มี.ค.-เม.ย.นี้ 


     นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นเดือนละ 15,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2555 ซึ่ง ที่ประชุม ครม.ยังได้มอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพในการจัดทำร่าง ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว ในฐานะที่มีข้าราชการในกระทรวงมากที่สุด โดยล่าสุดได้จัดทำเสร็จสิ้นและทุกส่วนเห็นชอบกับร่างดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้ต้องรอการพิจารณาจากที่ประชุม ครม.ต่อไป 


     ในส่วนของการปรับเงินเดือนเพิ่ม 15,000 บาทของบุคลากรใน ศธ.นั้น ได้จัดตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้วใน พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2555 โดยเมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณผ่านความเห็นชอบ ก็จะจัดสรรให้กับบุคลากรได้ทันที นอกจากนี้ในส่วนของ ศธ. ได้ทำเรื่องเสนอของบประมาณประจำปี 2555 จำนวน 70,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมการปรับอัตราเงินเดือนของผู้บรรจุราชการใหม่ก่อนหน้าที่เงิน เดือนยังไม่ถึง 15,000 บาท ปรับเงินค่าจ้าง 300 บาทของลูกจ้างในพื้นที่นำร่อง 7 จังหวัด ตามมติ ครม.ก่อนหน้านี้ โดยจำนวนเงินดังกล่าวนี้รวมกับการปรับโครงสร้างเงินเดือนครูร้อยละ 13 ตามที่มีมติ ครม.ตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดก่อนด้วย 


     “สำหรับสาเหตุที่ต้องใช้งบประมาณสูง เพราะก่อนหน้านี้ ศธ.ก็ได้มีการปรับเงินเดือนครูขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเงินเดือนครูก็สูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีข้าราชการครูจำนวนมาก จึงทำให้งบเงินเดือนครูเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากจำแนกเฉพาะปรับให้ได้ตามมติ ครม. 15,000 บาท ก็จะคิดเป็นงบประมาณ 400 กว่าล้านบาทเท่านั้น” ปลัด ศธ.กล่าว


     ขณะเดียวกัน ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ เกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า 

     ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ผู้ที่สอบขึ้นบัญชีเข้า รับราชการในสังกัดราชการของกระทรวงศึกษาฯ ได้ กรณีถูกเรียกบรรจุแล้วไม่สามารถมาบรรจุได้เนื่องจากต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ โดยจะให้คงอัตราให้กับผู้ที่สอบขึ้นบัญชีดังกล่าวไว้ไม่ตัดสิทธิ์ และให้เรียกผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ในบัญชีถัดไปบรรจุแทนไปก่อน หลังพ้นจากการเป็นทหารเกณฑ์ก็ค่อยกลับมาบรรจุในปีต่อๆ ไป 


     "แต่เดิมกรณีนี้ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ชัดเจน จึงเป็นเพียงการทำหนังสือขอพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ทำให้ต้องใช้เวลาพิจารณานานจนเกิดปัญหากับผู้สอบบรรจุได้บางราย ที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการรับใช้ราชการเหมือนกันจึงผ่อนผันให้" นายอภิชาติกล่าว


     นอกจากนี้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาการรับรองคุณวุฒิของผู้ที่จบปริญญาสาขาต่างๆ ที่จะบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ หลังมีบางมหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนชื่อปริญญาบัตรหรือเพิ่มวิชาเอก ซึ่งเป็นการผลิตบัณฑิตสาขาใหม่แต่ให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รับรองเพียงอย่างเดียว แต่มหาวิทยาลัยไม่ได้ขอมาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา (กคศ.) เพื่อให้รับรองคุณวุฒิดังกล่าวว่าจึงทำให้ไม่สามารถบรรจุเป็นข้าราชการครู ได้ ดังนั้น อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ เลยมีมติแก้ปัญหาย้อนหลังให้ โดยการให้ กคศ.แจ้งทุกมหาวิทยาลัยว่าได้รับรองคุณวุฒิใดไปแล้วบ้าง และหากมหาวิทยาลัยใดยังไม่ได้แจ้งให้ ก.ค.ศ.รับรองคุณวุฒิให้รีบแจ้งมาก่อนจะมีการสอบแข่งขันบรรจุข้าราชการครูใน ช่วงมีนาคม-เมษายนปี 2555 นี้ 


     ทั้งนี้ หลักสูตรของหลายมหาวิทยาลัยได้ปรับเปลี่ยนจนทำให้เนื้อหาสาระของหลักสูตรข้า ราชการครูเปลี่ยนไป เรื่องดังกล่าว สกอ.ก็ได้ดำเนินการไปตามกระบวนการ ตั้งแต่แนะนำให้ปรับปรุงการเรียนการสอน แต่หากมหาวิทยาลัยเห็นว่าไม่สามารถปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานได้ก็จะสั่ง ยุติการเรียนการสอน

ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 22 กันยายน 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น